
โรงพยาบาลปทุมธานี ขอขอบคุณบุคลากรทุกท่าน
ขอขอบคุณบุคลากรโรงพยาบาลปทุมธานีทุกท่าน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจดูแลผู้ป่วย ระหว่างเหตุการณ์แผ่นดินไหว วันที่ 28 มีนาคม 2568 อย่างเต็มกำลังความสามารถเป็นผลให้ผู้ป่วยและบุคลากรทุกคนไม่ได้รับอันตรายระหว่างการอพยพเคลื่อนย้าย และผู้ป่วยได้กลับเข้ารับการรักษาพยาบาลในหอผู้ป่วยอย่างปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ขอชื่นชมในความเสียสละของบุคลากรทุกท่านที่ให้ความสำคัญ กับความปลอดภัยของผู้ป่วยมาเป็นอันดับแรกขอชื่นชมในการยืนหยัด อดทน แม้ในภาวะยากลำบากเพื่อเป็นที่พึ่งให้กับผู้ป่วยอย่างแท้จริง ขอขอบคุณอีกครั้งมา ณ ที่นี้ โรงพยาบาลปทุมธานี
ประกาศโรงพยาบาลปทุมธานี เรื่อง การรับยา
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2568 ที่ผ่านมา ผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยนอกที่ยังไม่ได้รับยา สามารถนำ บัตรคิวที่ได้รับจากห้องยา หรือใบนำทางที่ได้รับจากห้องตรวจมาติดต่อรับยาที่ห้องยาผู้ป่วยนอก ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2568 ถึง 4 เมษายน พ.ศ.2568 เวลา 8.00 น. - 16.00 น. ทางโรงพยาบาลขออภัยในความไม่สะดวก ณ โอกาสนี้
ประกาศโรงพยาบาลปทุมธานี เรื่อง งดการให้บริการ
สืบเนื่องจากเหตุการแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี วันที่ 28 มีนาคม 2568 แม้จะไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่ออาคารสถานที่และระบบต่างๆ ภายในโรงพยาบาลปทุมธานี แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำ (อาฟเตอร์ช็อค) ภายในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและญาติและบุคลากรต่างๆ โรงพยาบาลปทุมธานีจึงของงดให้บริการต่างๆ ดังต่อไปนี้1. คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการทั้งหมด
2. การผ่าตัดผู้ป่วยไม่ฉุกเฉินทั้งหมด
3. การประชุมและกิจกรรมต่างๆ ที่มีการรวมตัวกันภายในอาคาร
ทั้งนี้ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2568 เวลา 16.00 น. จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2568 เวลา 24.00 น. หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายหลัง โรงพยาบาลปทุมธานี ขออภัยในความไม่สะดวกต่างๆที่เกิดขึ้น และขอขอบพระคุณความช่วยเหลือต่างๆ ที่ส่งเข้ามา รวมถึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัย
โรงพยาบาลปทุมธานี

ประกาศโรงพยาบาลปทุมธานี เรื่อง งดการให้บริการ ฉบับที่ 3
สืบเนื่องจากโรงพยาบาลปทุมธานีเชิญทีมวิศวกรจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี และวิศวกรจากกองแบบแผน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบโครงสร้างอาคารเพื่อประเมินความปลอดภัยอาคารหลังเกิดแผ่นดินไหวผลการตรวจสอบพบว่าโครงสร้างหลักของอาคารมีความปลอดภัยไม่พบรอยแตกร้าวที่โครงสร้างหลัก พบเพียงรอยแตกร้าวที่ผนังซึ่งเป็นงานฉาบตกแต่ง และงานกระเบื้องหลุดร่อนจึงขอยืนยันผลการประเมินความปลอดภัยของอาคารมีความปลอดภัย ดังนั้นโรงพยาบาลปทุมธานีขอเปิดให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วย ญาติ และ เจ้าหน้าที่สูงสุด ดังนี้1. เปิดบริการผู้ป่วยนอกทุกแผนก ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป
2. ย้ายผู้ป่วยหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม ห้องคลอดและห้องผ่าตัดกลับสู่หน่วยงานเดิมตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. และจะดำเนินการย้ายหอผู้ป่วยวิกฤตอายุรกรรม และหอผู้ป่วย อื่นๆ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568
3. จัดการประชุมในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เป็นปกติ
4. เปิดผ่าตัดเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน และของดการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วน ( Elective case) จนถึง วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 เนื่องจากโรงพยาบาลมีความจำเป็นต้องปรับปรุงพื้นที่ห้องผ่าตัด
หากมีข้อสงสัยการนัดผ่าตัดกรุณาติดต่อ 02-5988888

ประกาศโรงพยาบาลปทุมธานี เรื่อง งดการให้บริการ ฉบับที่ 2
สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น วันที่ 28 มีนาคม 2568 โรงพยาบาลปทุมธานี ได้เชิญทีมวิศกรจากกองแบบแผน กระทรวงสาธารณสุข และวิศวกรจากโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานีเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร พบรอยแตกร้าวที่อาคารศูนย์การแพทย์ 18 ชั้น แต่รอยแตก ร้าวดังกล่าวไม่กระทบโครงสร้างหลักของอาคารและระบบต่างๆ แต่ยังเป็นไปได้ว่าที่จะเกิดแผ่นดินไหว ซ้ำ ( อาฟเตอร์ช็อค) ภายในเวลา 24-48 ชั่วโมงได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและญาติโรงพยาบาลปทุมธานีจึงขอเปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน และการผ่าตัดฉุกเฉินทั้งนี้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 น. จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 เวลา 24.00 น. หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
โรงพยาบาลปทุมธานี

เวชศาสตร์ครอบครัว
เครือข่ายสถาบันฝึกอบรมโรงพยาบาลปทุมธานี ได้นำแนวทางจากหลักสูตร แพทย์ประจำบ้านของราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวแห่งประเทศไทยฉบับพ.ศ.๒๕๖๒ มาพัฒนาเป็นแผนการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านแบบใช้ชุมชนเป็นฐานสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพ.ศ.๒๕๖๖ เพื่อมุ่งหวังให้ สถาบันฝึกอบรม,ผู้ให้การฝึกอบรม,ผู้รับการฝึกอบรมทุกประเภท สามารถใช้แผนการฝึกอบรมนี้ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถทางคลินิกที่มุ่งไปสู่การประกอบเวชปฏิบัติในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัวได้ [รายละเอียดคลิก]